- Kalyakorn Naksompop
You Don't Have to Walk Alone

เมื่อวันก่อนไปพบนักบำบัดตามนัด คราวที่แล้วได้เริ่มทำการบำบัดด้วย EMDR เป็นการปรับกระบวนการของสมองผ่านการขยับตา
.
ได้ผลดีมาก ก็นึกและหวังว่าจะได้ทำอีก
.
ปรากฏว่าครั้งนี้ใจเอินนี่เองที่กลับไม่พร้อม เพราะดันมีเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นาน ที่ทำให้กลับไปซ้อนภาพเดิมที่เคยถูกทำให้เจ็บปวดใจเกินขีด ประกอบกับมีเรื่องที่น่าสนใจผุดขึ้นมาให้อาจารย์นักบำบัดได้หยิบจับขึ้นมาพูดคุยเป็น talk therapy ที่เรียบง่ายแทน
.
ประเด็นคือวันนั้นมีปัญหาบางอย่างที่ต้องอาศัย skill ในการบริหารจัดการ ซึ่งก็แก้ปัญหาได้ดีและรวดเร็ว จึงเข้าไปหาอาจารย์ด้วยความร่าเริงมาก
.
อาจารย์จึงพบว่า 'self' หรือ 'ตัวตน' ที่ใช้ทำงานของเอินนั้นแข็งแกร่งมาก อาจารย์เรียกตามศัพท์วิชาการว่าเป็น 'perfect self' คือมั่นใจ รักตัวเอง คิดว่าตนคู่ควรกับสิ่งดีๆ ที่สำคัญคือผิดพลาดได้ เมื่อพลาดก็รู้ว่าพลาด ไม่ได้โทษตำหนิตัวเองจนเกลียดตัวตนของตัวเอง
.
ซึ่งแตกต่างจาก 'self' ในเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะในเรื่องความสัมพันธ์ ซึ่งอาจารย์บอกว่าเป็น 'damaged self' หรือตัวตนที่บุบสลาย (แต่เอินแอบเรียกมันด้วยชื่อเล่นว่า 'broken self' อันมีความหมายถึงตัวตนที่พังๆ)
.
broken self นั้นทำให้รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า เมื่อผิดพลาดหรือรู้สึกว่าทำให้ใครเป็นภาระก็จะรู้สึกผิด ตำหนิตัวเอง จนเกลียดตัวตนที่เป็น จนทำร้ายตัวเองในหลายครั้ง
.
ใช่.. เอินเคยกรีดข้อมือแล้วเลิกไป ไม่อยากให้มีแผลเป็นมาเรียกความสนใจจากใคร ก็ไม่ได้ต้องการเป็นจุดสนใจนี่นา เพราะเชื่อว่าชีวิตตัวเองไม่ควรค่าจะให้ใครหันมามอง
.
ใช่.. เอินยังคงเอาหัวโขกกำแพงให้เจ็บเมื่อความกดดันพุ่งเกินขีดที่ตัวเองรับได้
.
หรือบางทีก็ใช้วิธีตบหน้าตัวเองจนหน้าช้ำเป็นปื้น
.
ล่าสุด... เอินเพิ่งตั้งใจใช้เล็บข่วนหน้าตัวเองจนเป็นแผลเล็กๆ
.
เอินเกลียดตัวเอง ตำหนิตัวเอง รู้สึกผิด เชื่อว่าตนคือบ่อเกิดของทุกความหายนะรอบตัว จนรู้สึกสึกว่าไม่สมควรได้รับสิ่งดีๆ จนหลายทีเลยเถิดไปเชื่อว่าตัวเองนั้นสมควรจะเจ็ยปวด สมควรได้รับการถูกลงโทษ
.
อาจารย์บอกว่าที่น่าสนใจเพราะเอินดันแยกแยะตัวตนได้ และแยกเสียชัดเจนด้วย คือพอเป็นเรื่องงารก็เหมือนหยิบ perfect self ขึ้นมาร่าเริงลุยทำสิ่งต่างๆ แต่พอนึกถึงหรือโดนกระทบที่เรื่องส่วนตัวก็จะโยน perfect self ออกนอกหน้าต่างไปและหยิบ broken self ออกมาละเลงตัวเองให้เจ็บช้ำ
.
อาจารย์บอกว่าไม่รู้ว่าอันไหนคือ self ที่แท้จริงกันแน่ แต่มันไม่สำคัญเท่าการหาจุดเชื่อมโยงระหว่าง 2 ตัวตนนี้ให้เจอ เพราะถ้าเจอก็อาจจะช่วยให้เจอวิธีที่จะพาตัวเองออกจากหลุมดำได้อย่างแท้จริง
.
หนทางอีกยาวไกลแค่ไหนไม่รู้เลย แต่วันนี้รู้สึกว่าได้เขยิบเข้าไปใกล้คำว่ารักตัวเองและความสุขมากขึ้นอีกนิด
.
นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าวันนี้ยังมัวแต่ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วยและต้องการความช่วยเหลือจากแพทย์และนักบำบัด
.
ขอบคุณตัวเองที่ไม่ยอมแพ้
ขอบคุณที่กล้ายอมรับว่าตัวเองป่วย
และที่กล้ายอมรับว่าต้องการความช่วยเหลือ
จนสามารถลากตัวเองไปหาหมอและนักบำบัดได้
- - - - - - -
ตั้งใจแชร์เรื่องนี้เพราะต้องการบอกว่า
เราไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพียงลำพังนะคะ
และการยอมรับว่าตัวเองป่วย
ไม่ใช่การประกาศกับโลกว่าเราอ่อนแอเลย
.
เราก็แค่เป็นหวัด เราจึงต้องรักษา
ง่ายๆ อย่างนั้นเลย
.
ที่สำคัญคือ You're not alone
มีคนอีกมากมายที่กำลังต่อสู้กับโรคนี้เหมือนเรา
.
RAQUE Forward ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกคน
มีความสุขกับชีวิตให้ได้ในที่สุดนะคะ
- - - - - - -
เอิน กัลยกร
#RAQUE #RAQUEForward #โรคซึมเศร้า